การเขียนผังงาน (
Flowchart )
ผังงาน คือ
แผนภาพที่มีการใช้สัญลักษณ์รูปภาพและลูกศรที่แสดงถึงขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมหรือระบบทีละขั้นตอน
โดยแต่ละสัญลักษณ์ในแผนภาพ
จะหมายถึงการทำงานหนึ่งขั้นตอน ส่วนลูกศรจะแทนลำดับการทำงานขั้นตอนต่างๆ
รวมทั้งทิศทางการไหลของข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้นจนได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
ระบบงานทุกชนิดที่ผ่านการวิเคราะห์เป็นลำดับขั้นตอนแล้ว
จะสามารถเขียนเป็นผังงานได้
ประโยชน์ของผังงาน1. ทำให้เราเข้าใจขั้นตอนและลำดับในการทำงานของโปรแกรมอย่างรวดเร็ว
2. เป็นสื่อกลางระหว่างผู้พัฒนาโปรแกรม
นักวิเคราะห์โปรแกรมและผู้ที่เกี่ยวข้องให้สามารถเข้าใจโปรแกรมได้โดยง่าย
3.
ทำให้สามารถวิเคราะห์ความถูกต้องของโปรแกรมก่อนเขียนโปรแกรมจริงได้ง่าย
และตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้ง่าย
4.
ช่วยให้การกระจายงานให้กับโปรแกรมเมอร์หลายๆ คนช่วยกันเขียนโปรแกรมเป็นส่วนๆ ได้
เพราะมีทิศทางการทำงานของโปรแกรมชัดเจน สามารถแบ่งส่วนและประมาณการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
5.
ทำให้ผู้อื่นสมารถศึกษาการทำงานของโปรแกรมและแก้ไขโปรแกรมได้ง่าย
ข้อจำกัดของการเขียนผังงาน
การเขียนผังงานไม่เหมาะกับงานที่มีวิธีการซับซ้อน
เช่น มีการที่เงื่อนไขในการทดสอบมากมาย ซึ่งมักจะใช้ตารางการตัดสินใจ(decision table) เข้ามาช่วยมากกว่า 1
การเขียนผังงานที่ดี
การเขียนผังงานที่ดี
1.
ใช้สัญลักษณ์ตามที่กำหนด
2.
ใช้ลูกศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูลจากบนลงล่าง
หรือจากซ้ายไปขวา
3.
คำอธิบายในภาพควรสั้นกะทัดรัด
และเข้าใจง่าย
4.
ทุกแผนภาพต้องมีลูกศรแสดงทิศทางเข้าออก
5.
ไม่ควรโยงเส้นเชื่อมผังงานที่อยู่ไกลมาก
ๆ ถ้าต้องทำให้ใช้สัญลักษณ์การเชื่อมต่อแทน
ผังงานโปรแกรม ( Program Flowchart )
การเขียนผังโปรแกรมจะประกอบไปด้วยการใช้สัญลักษณ์มาตรฐานต่าง
ๆ ดังตัวอย่างที่แสดงในรูปต่อไปนี้
หลักเกณฑ์การเขียนผังงาน
การเขียนผังงานที่ดีสามารถสรุปเป็นหลักเกณฑ์ได้ดังต่อไปนี้
1.
ผังงานที่เขียนขึ้นต้องดูชัดเจน และดูง่าย
2.
ต้องมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดพียงจุดเดียว
3.
กำหนดทิศทางการทำงานด้วยลูกศร
และควรมีทิศทางการทำงานจากบนลงล่างหรือจากซ้ายไปขวาเท่านั้น
4.
สัญลักษณ์แบบเลือกทำจะต้องมีคำตอบที่ถูกต้องที่ทำให้โปรแกรมดำเนินต่อไปได้
5.
ลูกศรที่ใช้บอกทิศทางการทำงานไม่ควรเขียนตัดกันหรือทับกัน
6.
ผังงานที่มีความซับซ้อนมาก
หรือขั้นตอนการทำงานอยู่ห่างกันมาก ควรนำสัญลักษณ์การเชื่อมต่อมาใช้เพื่อให้เข้าใจง่าย
7.
การเขียนส่วนประมวลผลที่มีการคำนวณหรือมีการใส่ค่าควรใช้เครื่องหมายลูกศรหรือเครื่องหมายเท่ากับในการเขียน
8.
เมื่อเขียนผังงานจบแล้วควรตรวจสอบความถูกต้องของผังงานโดยการสร้างข้อมูลขึ้นมาหนึ่งชุดแล้วดูว่าผลลัพธ์เป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่
ลักษณะโครงสร้างการเขียนผังงาน
โดยทั่วไปมี 5 แบบดังต่อไปนี้
1. โครงสร้างการทำงานแบบลำดับ (Sequence) จะแสดงขั้นตอนการทำงานที่เรียงลำดับกันไป ไม่มีการข้ามขั้น
หรือย้อนกลับไปทำคำสั่งที่ได้ทำไปแล้ว ดังตัวอย่างในรูป
รูปแสดงผังโปรแกรมแบบมีลำดับ
2. ผังโปแกรมแบบมีการเลือก (Selection) เป็นโครงสร้างที่ตรวจสอบเงื่อนไข ให้โปแกรมเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง
การตรวจสอบเงื่อนไขนี้จะใช้ความสัมพันธ์ทางตรรกะมาช่วยในการตัดสินใจ
ผังงานลักษณะนี้มีอยู่ 3 กรณี ดังต่อไปนี้
2.1
การเลือกแบบหนึ่งเส้นทาง เมื่อมีการตรวจสอบเงื่อนไขแล้วเงื่อนไขเป็นจริงจะทำกิจกรรมหนึ่งที่กำหนด
แต่ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จจะออกจากโครงสร้างนั้น โดยไม่ทำกิจกรรมที่กำหนดเลย ผังงานแบบนี้จะเขียนคำว่า จริง / เท็จ
หรือ yes/
no หรือ T/F กำกับทิศทางการทำงานไว้ด้วย โดยผังงานแสดงได้ดังรูป
2.2
การเลือกทำแบบสองเส้นทาง
จะพิจารณาเงื่อนไขที่เป็นจริงและเป็นเท็จ โดยถ้าเป็นจริงจะทำอย่างหนึ่ง
แล้วออกจากโครงสร้าง ถ้าเป็นเท็จจะทำอีกอย่างหนึ่ง แล้วออกจากโครงสร้าง ผังงานแสดงได้ดังรูป
2.3
การเลือกทำแบบหลายเส้นทาง
จะพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถ้าเท่ากับทางที่เลือกใดจะให้ไปทำงานตามทางเลือกนั้น
ผังงานแบบเลือกหลายทางสามารถเขียนได้ดังรูป
การเลือกทำแบบหลายเส้นทางนี้ยังสามารถนำการเลือกทำแบบทางเดียวและแบบสองทิศทางมาประกอบกันเป็นโครงสร้างใหม่ได้อีกด้วย
การเลือกทำแบบหลายเส้นทางนี้ยังสามารถนำการเลือกทำแบบทางเดียวและแบบสองทิศทางมาประกอบกันเป็นโครงสร้างใหม่ได้อีกด้วย
3. ผังโปรแกรมทำซ้ำถ้าเงื่อนไขเป็นจริง จะใช้ในงานที่มีการตรวจสอบเงื่อนไข
ถ้าเป็นจริงจะทำงานซ้ำโดยจะตรวจสอบเงื่อนไขก่อนการทำงานทุกครั้ง โดยเขียนได้ดังรูป
4. ผังโปรแกรมแบบทำซ้ำจนกระทั่งเงื่อนไขเป็นจริง จะใช้ในระบบที่ต้องทำงานก่อนการตรวจสอบเงื่อนไข
และทำงานซ้ำจนกระทั่งเงื่อนไขเป็นจริง สามารถเขียนได้ดังรูป
5. ผังโปรแกรมแบบทำซ้ำตามจำนวนที่ระบุ ใช้ในระบบที่ต้องทำงานตามจำนวนรอบที่กำหนด โดยเริ่มจากรอบเริ่มต้นไปยังรอบสุดท้าย ตามปกติแล้วค่าการนับรอบจะเพิ่มขึ้นครั้งละหนึ่งค่า โดยเขียนได้ดังรูป
ตัวอย่าง ถ้าต้องการนำคะแนน(จำนวนเต็ม)ของนักศึกษาหนึ่งคนมาตัดเกรดตามเงื่อนไขต่อไปนี้
คะแนน 80 - 100 ได้เกรด A
คะแนน 70 - 79 ได้เกรด B
คะแนน 70 - 79 ได้เกรด B
คะแนน 60 - 69 ได้เกรด C
คะแนน 50 - 59 ได้เกรด D
คะแนนต่ำกว่า 50 ได้เกรด F
จากคะแนนดังกล่าวสามารถเขียนแผนผังได้ดังรูป
Flowchart ใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วยน๊า…
การทำงานหลายอย่างในชีวิตประจำวัน จะมีลักษณะที่เป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งก่อนที่ท่านจะได้ศึกษาวิธีการเขียนผังงานโปรแกรม จะแนะนำให้ท่านลองฝึกเขียนผังงานที่แสดงการทำงานในชีวิตประจำวันวันก่อนเพื่อเป็น การสร้างความคุ้นเคยกับสัญลักษณ์รูปภาพต่าง ๆ ที่จะมีใช้ในผังงานโปรแกรมต่อไป ดัง ตัวอย่าง 1 เขียนผังงานที่แสดงขั้นตอนการส่งจดหมาย
รูป แสดงการเขียนผังงานที่แสดงขั้นตอนการส่งจดหมาย
*************************************************************************************************************************
แบบฝึกหัดเรื่องการเขียนผังงาน (
Flowchart )
1. ให้นักเรียน แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน
2. แต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อที่จะเขียน Flowchart ดังต่อไปนี้ 1 หัวข้อ (ห้ามซ้ำกัน)
2. แต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อที่จะเขียน Flowchart ดังต่อไปนี้ 1 หัวข้อ (ห้ามซ้ำกัน)
- แสดงขั้นตอนการทำไข่เจียว
- แสดงขั้นตอนการต้มมาม่า
- แสดงขั้นตอนการชงกาแฟสำเร็จรูป
- แสดงขั้นตอนการส่ง e-mail
- แสดงขั้นตอนการทำส้มตำ
ขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะคุณครู
ลบค่า
ลบเข้าใจมากขึ้นนิดนึ่ง ขอบคุณค่ะ
ตอบลบmmmm
ลบ....มะม่วง ESPORT
ตอบลบ._.
ตอบลบ._.
ตอบลบasjaa
ตอบลบ