แบบทดสอบกลางภาค
โรงเรียนทรายทองวิทยา อำเภอโพนทราย
จังหวัดร้อยเอ็ด
รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา
ง๒๒๑๐๑ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๒
จำนวน
๔๐ ข้อ ๒๐
คะแนน เวลา ๔๐ นาที
คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
มฐ.ง ๓.๑ (๑)
อธิบายหลักการเบื้องต้นของการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (ข้อ ๑- ๒๐)
๑. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล (ความจำ knowledge)
ก. ข้อมูล
ข. โปรโตคอล
ค. ระยะเวลา
ง.
สื่อนำข้อมูล
๒. ข้อใดให้ความหมายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง (ความเข้าใจ Comprehend)
ก. การนำเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ ๒ เครื่องขึ้นไป
มาเชื่อมต่อเพื่อใช้ในการสื่อสารข้อมูล
ข. ระบบใดๆ
ก็ตามที่ข้อมูลหรือข่าวสารสามารถถูกส่งผ่านสื่อประเภทต่างๆ ได้ระบบใดๆ ก็ตามที่ข้อมูลหรือข่าวสารสามารถถูกส่งผ่านสื่อประเภทต่างๆ
ได้
ค. สิ่งที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายข้อมูลจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
ง . การรับส่ง
โอนย้ายหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลและสารสนเทศระหว่างอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ
ผ่านสื่อนำข้อมูล
๓. โปรโตคอล
(Protocol) คือข้อใด (ความจำ knowledge)
ก. สิ่งที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลไปยังจุดหมายที่ต้องการ
ข. สิ่งที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลที่ถูกส่งมาให้
ค. สิ่งที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายข้อมูลจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
ง. กฎหรือระเบียบวิธีที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อการสื่อสารข้อมูล
ให้ผู้รับและผู้ส่งเข้าใจตรงกันในสิ่งที่ส่ง
๔. ข้อใดจัดเป็นการส่งข้อมูลสองทิศทางพร้อมกัน
(การวิเคราะห์ Analysis)
ก. การใช้วิทยุสื่อสาร
ข. การชมภาพยนตร์
วีซีดี
ค. การเรียนผ่านดาวเทียม
ง. การคุยกันผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
๕. ข้อใดจัดเป็นสื่อนำข้อมูลแบบมีสายที่ป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดีที่สุด (การวิเคราะห์ Analysis)
ก. สายไฟฟ้าแรงสูง
ข. สายคู่บิดเกลียว
ค. สายใยแก้วนำแสง
ง. สายโคแอกเชียล
๖. ข้อใดคือเทคโนโลยีหลักของการสื่อสารด้วยแสง
(ความเข้าใจ Comprehend)
ก. ดาวเทียม
ข. สายทองแดง
ค.
สายโคแอกเชียล
ง. สายใยแก้วนำแสง
๗. รูปแบบการเชื่อมต่อแบบใดที่มี Host Computer เป็นเครื่องศูนย์กลาง (ความเข้าใจ Comprehend)
ก. Star
ข. Bus
ค. Ring
ง. Bridge
๘. ข้อเสียของการเชื่อมต่อแบบบัสคือข้อใด
(การวิเคราะห์ Analysis)
ก. หากเกิดขัดข้องที่สถานีใดจะทำให้ทั้งระบบไม่สามารถใช้งานได้
ข. หากสายส่งข้อมูลเสียหายจะทำให้ทั้งระบบไม่สามารถทำงานได้
ค. หากคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางขัดข้อง
จะทำให้ระบบใช้งานไม่ได้ทันที
ง. การตรวจสอบข้อผิดพลาดจะต้องตรวจสอบไปทีละสถานี
๙. ข้อใดมีหน้าที่ในการแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นแอนะล็อก (ความเข้าใจ Comprehend)
ก. ฮับ
(Hub)
ข. โมเด็ม (Modem)
ค. เราเตอร์
(Router)
ง. เกตเวย์ (Gateway)
๑๐. ข้อใดคือการทำงานเราเตอร์ (Router)
(ความจำ knowledge)
ก. เชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ
เข้าด้วยกัน
ข. เชื่อมต่อเครือข่ายย่อยสองเครือข่ายเข้าด้วยกัน
ค. แปลงสัญญาณดิจิทัล
ง. สามารถเชื่อมต่อระบบที่ใช้สื่อหรือสายสัญญาณต่างชนิดกันได้
๑๑. การส่งข้อมูลทิศทางเดียวมีลักษณะอย่างไร
(ความเข้าใจ Comprehend)
ก. ส่งและรับข้อมูลโดยไม่ได้โต้ตอบกัน
ข. ส่งและรับข้อมูลโดยสามารถโต้ตอบกันได้ทันที
ค. ส่งและรับข้อมูลโดยจะโต้ตอบกันทางโทรศัพท์
ง. ส่งและรับข้อมูลโดยไม่สามารถโต้ตอบกันได้ในเวลาเดียวกัน
๑๒. สื่อนำข้อมูลแบบมีสาย
ที่มีส่วนประกอบเป็นทองแดง เป็นคุณสมบัติของตัวกลางประเภทใด
(ความเข้าใจ Comprehend)
ก. สายคู่บิดเกลียว ข. สายโคแอกเชียล
ค. สายไฟฟ้าแรงสูง ง. สายใยแก้วนำแสง
๑๓. การสื่อสารข้อมูลสามารถแบ่งออกได้กี่ยุค (ความจำ knowledge)
ก. ๒ ข. ๓
ค. ๔ ง.
๕
๑๔. ข้อใดคือลักษณะของการสื่อสารในยุคเกษตรกรรม (ความเข้าใจ Comprehend)
ก. เป็นยุคที่มีเครื่องมือการสื่อสารที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง
ข. มีการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร
ค. มีการติดต่อสื่อสาร
และแลกเปลี่ยนข่าวสาร ศิลปวัฒนธรรมระหว่างชุมชน
ง. สื่อสารกันด้วยท่าทาง
๑๕. อุปกรณ์ใดหาเส้นทางการส่งข้อมูลที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ (ความเข้าใจ Comprehend)
ก. Switch Hub ข.
Modem
ค. Bridge ง. Gateway
๑๖. ถ้านักเรียนต้องการติดตั้งเครือข่ายเพื่อใช้ร่วมกันภายในอาคาร
หรือบริเวณเดียวกัน นักเรียนจะเลือกใช้เครือข่ายแบบ (การประยุกต์
Application)
ก. MAN ข.
LAN
ค. WAN ง. VAN
๑๗. ข้อเสียของการเชื่อมต่อแบบดาวคือข้อใด (ความเข้าใจ Comprehend)
ก. เป็นระบบที่ยากต่อการติดตั้ง
ข. มีการแย่งใช้สายสื่อสาร
ค.
การรับ-ส่งภายในระบบทั้งหมดขึ้นอยู่กับเครื่อง Host
ง. หากเครื่อง Host ขัดข้องทั้งระบบก็จะใช้งานไม่ได้
๑๘. การเชื่อมต่อแบบวงแหวน เหมาะกับการใช้สื่อชนิดใด
ก. สายทองแดงแบบไม่หุ้มฉนวน
ข. สายทองแดงแบบหุ้มฉนวน
ค. สายโคแอกเชียล
ง. ใยแก้วนำแสง
๑๙. เหตุการณ์ใดที่สามารถเกิดขึ้นได้การเชื่อมต่อแบบบัส (การวิเคราะห์ Analysis)
ก. การแย่งสายสื่อสาร
ข. การชนกันของข้อมูล
ค. การหล่นหายของข้อมูล
ง. ถูกทุกข้อ
๒๐. ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์ของการใช้เครือข่ายแบบผสม
(ความเข้าใจ Comprehend)
ก. เพื่อให้การทำงานมีความสะดวกรวดเร็ว
ข.
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน
ค. เพื่อลดปัญหาการซ้ำซ้อนของการส่งข้อมูล
ง. เพื่อขจัดปัญหาที่เกิดจากเครือข่ายแบบต่างๆ ให้ได้มากที่สุด
มฐ.ง
๓.๑ (๒) อธิบายหลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ (ข้อ ๒๑ – ๓๕)
๒๑. ขั้นตอนแรกในการแก้ปัญหาคือข้อใด (ความจำ knowledge)
ก. วิเคราะห์ปัญหา
ข. หาแนวทางแก้ไขปัญหา
ค. ค้นหาสาเหตุแห่งปัญหา
ง. กำหนดจุดหมายในการแก้ปัญหา
๒๒. จงเรียงลำดับกระบวนการในการแก้ปัญหา (ความเข้าใจ Comprehend)
๑. การเลือกเครื่องมือ ๒. การตรวจสอบ
๓. การวิเคราะห์ ๔. การดำเนินการ
ก. ๑ - ๒
- ๓ – ๔
ข. ๔ - ๓ - ๑ - ๒
ค. ๓ - ๔
- ๒ - ๑
ง. ๓ - ๑ - ๔ – ๒
๒๓. การจำลองความคิด หมายถึงข้อใด
(ความจำ knowledge)
ก. การกำหนดสถานการณ์
ข. การบรรยายเหตุการณ์
ค. การลำดับเหตุการณ์
ง. การแสดงขั้นตอนของเหตุการณ์
๒๔. การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหามีองค์ประกอบในการวิเคราะห์อย่างไรบ้าง (ความเข้าใจ Comprehend)
ก. ข้อมูลนำเข้า ข้อมูลออก ออกแบบขั้นตอนวิธี
ข. ข้อมูลนำเข้า ข้อมูลออก กำหนดวิธีการประมวลผล
ค. ข้อมูลนำเข้า ออกแบบขั้นตอนวิธี
กำหนดวิธีการประมวลผล
ง. ข้อมูลนำเข้า ข้อมูลออก เลือกโปรแกรมที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม
๒๕. เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหา
ที่นิยมใช้ได้แก่ข้อใด (การประเมินค่า (Evaluation)
ก. ผังงาน (Flowchart)
ข. ทรีชาร์ต (Treechart)
ค. ผังองค์กร
(Organization)
ง. แผนที่ความคิด (Mind Mapping)
๒๖. สัญลักษณ์ที่ใช้ในการแสดงการเริ่มต้นและสิ้นสุดคือข้อใด
(ความจำ knowledge)
๒๗. การเขียนโปรแกรม หมายถึงข้อใด (ความจำ knowledge)
ก. กระบวนการใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหา
ข. กระบวนการกำหนดโครงสร้าง
ค. กระบวนการจำลองความคิด
ง. กระบวนการออกแบบโปรแกรม
๒๘. ข้อใดไม่ใช่ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม (ความจำ knowledge)
ก. จาวา ข. อ๊อบเจกต์
ค. ซี ง. โคบอล
๒๙. โครงสร้างแบบลำดับมีลักษณะอย่างไร
(ความเข้าใจ Comprehend)
ก. มีรูปแบบการทำงานซ้ำซ้อนหลายขั้นตอน
ข. มีรูปแบบการทำงานแต่ละขั้นตอนถูกประมวลผลครั้งเดียว
ค. มีรูปแบบการทำงานที่ซ้ำกันหลาย ๆ
รอบ
ง. มีรูปแบบการทำงานโดยแสดงทางเลือกให้มีทางออก
๒ ทาง
๓๐. จากรูป เป็นโครงสร้างควบคุมแบบใด (การวิเคราะห์ Analysis)
ข. do while
ค. case
ง. if…then…else
๓๑. วิธีพื้นฐานใดที่มนุษย์ใช้ในการแก้ปัญหา (ความจำ knowledge)
ก. การใช้เหตุผล
ข. วิธีขจัด
ค. การลองผิดลองถูก
ง. การใช้ตารางความสัมพันธ์
๓๒. การตัดข้อมูลที่เป็นไปไม่ได้ออกจนเหลือข้อมูลที่เป็นไปได้เป็นการแก้ปัญหาด้วยวิธีใด
(ความเข้าใจ Comprehend)
ก. การใช้เหตุผล
ข. วิธีขจัด
ค. การลองผิดลองถูก
ง. การใช้ตารางความสัมพันธ์
๓๓. จงเรียงลำดับเหตุการณ์ต่อไปนี้ (ความเข้าใจ Comprehend)
๑. แต่งตัว ๒. ทานข้าว
๓. อาบน้ำ ๔. ไปโรงเรียน
ก. ๓ - ๒
- ๑ - ๔
ข. ๒ - ๓ - ๑ - ๔
ค. ๓ - ๒
- ๑ - ๔
ง. ๓ - ๑
- ๒ – ๔
๓๔. การเขียนโปรแกรมตัดเกรดผลการเรียนนักเรียนใช้โครงสร้างแบบใด (การวิเคราะห์ Analysis)
ก. โครงสร้างแบบ case
ข. โครงสร้างแบบ do while
ค. โครงสร้างแบบ do until
ง. โครงสร้างแบบ sequential.
๓๕. จากภาพด้านบน หมายถึงข้อใด (ความจำ knowledge)
ก. แสดงผลบนกระดาษ
ข. แสดงการเรียกใช้โปรแกรม
ค. แสดงการประมวลผลคำสั่ง
ง. แสดงการตัดสินใจที่มีเงื่อนไข
มฐ.ง ๓.๑ (๒) อธิบายหลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
(๔) ใช้ซอฟต์แวร์ในการทำงาน (ข้อ
๓๖-๔๐)
๓๖. MSWLogo ย่อมาจากคำว่า อะไร (ความจำ knowledge)
ก. Microsoft
Windows Logo
ข. Microsoft Windows Media Logo
ค. Macromedia
Windows Logo
ง. Micro Media Logo
๓๗. จากรูปด้านบน
หมายเลข ๑ มีชื่อเรียกว่าอะไร (ความจำ knowledge)
ก. ส่วนแสดงผลกราฟิก
ข. แผงปุ่มควบคุม
ค. ส่วนแสดงผลข้อความ
ง. ช่องป้อนคำสั่ง
๓๘. คำสั่ง
Forward คือคำสั่งใด
(ความจำ knowledge)
ก. เลี้ยวซ้าย
ข. เลี้ยวขวา
ค. ถอยหลัง
ง. เดินหน้า
๓๙. คำสั่ง
Right ใช้สั่งให้เต่าโลโกทำ (ความจำ knowledge)
ก. กลับไปยังจุดเริ่มต้น
ข. หันไปทางซ้าย
ค. เดินไปข้างหน้า
ง. หันไปทางขวา
๔๐. ผู้พัฒนาโปรแกรมโลโกให้สามารถใช้กับ
ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ได้ (ความจำ knowledge)
ก. เซย์มัว พาเพิร์ต
ข. ไบรอัน ฮาร์เวย์
ค. เกย์ วอลเทอร์
ง. ยอร์จ มิลส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น